รัมเปลสติลล์สกิน (Rumpelstiltskin)
สำหรับนิทานเรื่องนี้เนื้อหาจะไม่ค่อยเยอะ(แต่ก็อยากลงโพสต์อยู่ดี^ ^)
เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่สนุก แต่ส่วนใหญ่อาจไม่เคยได้ฟังมาก่อนหน้านี้
________________________________________________________________
เวอร์ชั่นที่คุณรู้ : เรื่องนี้คนไทยอาจไม่รู้จักเท่าไหร่ แต่ถ้าอ่านก็อาจคุ้นๆ
(Illustration of Rumpelstiltskin from Andrew Lang's The Blue Fairy Book, ca. 1889)
คือกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เจ้าของโรงสีมีลูกสาวสวยที่สามารถม้วนฟางให้เป็นทอง จนเรื่องนี้
เข้าหูพระราชาโลภมากเข้า เลยจับขังหอคอยและบอกให้เธอปั่นทองให้ได้เท่านี้ถ้าทำไม่ได้เอ็งตายอย่างเขียด แต่ใครเอยจะบ้าทำได้ ในขณะที่หญิงสาวกำลังกลุ่มอยู่นั้นคนแคระก็มาหา มันเสนอแลกเปลี่ยนกับการแลกบุตรที่เธอคลอดคนแรกให้กับมัน และจะช่วยให้เด็กสาวสมปรารถนา
(Illustration of Rumpelstiltskin from Andrew Lang's The Blue Fairy Book, ca. 1889)
คือกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เจ้าของโรงสีมีลูกสาวสวยที่สามารถม้วนฟางให้เป็นทอง จนเรื่องนี้
เข้าหูพระราชาโลภมากเข้า เลยจับขังหอคอยและบอกให้เธอปั่นทองให้ได้เท่านี้ถ้าทำไม่ได้เอ็งตายอย่างเขียด แต่ใครเอยจะบ้าทำได้ ในขณะที่หญิงสาวกำลังกลุ่มอยู่นั้นคนแคระก็มาหา มันเสนอแลกเปลี่ยนกับการแลกบุตรที่เธอคลอดคนแรกให้กับมัน และจะช่วยให้เด็กสาวสมปรารถนา
จนกระทั่งเด็กสาวทำสำเร็จ ได้แต่งงานกับพระราชาโลภมาก(ดีไหมนั่น) มีบุตรคนแรก และคนแคระก็มารับเด็กตามข้อตกลงแต่เด็กสาวกลับคำ คนแคระเลยเพิ่มข้อแลกเปลี่ยนเพิ่มโดยทายชื่อเขาให้ถู ก โดยมีเวลา 3 วัน (บางเล่มบอกว่าให้ทายแค่ 3 ชื่อในเวลา 3 วัน) เจ้าหญิงเดาชื่อคนแคระไปเรื่อยๆ ทั้ง 2 วันก็ไม่ถูกสักทีจนกระทั่งมีคนผ่านไปแอบได้ยินมนุษย์แคระที่ร้องเพลงบอกชื่อของตนว่าเขาชื่อ
“รัมเปลสติลล์สกิน”คนผ่านมาเลยไปบอกเจ้าหญิง และสุดท้ายคนแคระเลยอดได้เด็ก
...
.........
..............
.....................
...........................
...........................
เนื้อหาต่อจากนี้ก็คือเรื่องที่ว่ากันว่าเป็นเบื้องหลัง(อันแสนโหดร้าย)
ของนิทานเรื่องนี้...
รู้จักพี่น้องกริมม์หรือเปล่า
พวกเขาคือคนแต่งนิทานเทพนิยายที่โด่งดังไงละ เช่น หนูน้อยหมวกแดง, สโนว์ไวท์ฯ,
ซินเดอเรลล่า ฯลฯ
แต่... คุณรู้หรือเปล่าว่าเบื้องหลังนิทานเหล่านั้น มันมีต้นกำเนิด..มันเป็นนิทานพื้นบ้านของยุโรป ซึ่งมีหลายเวอร์ชั่น ซึ่งเนื้อหานี้เหลื่อเชื่อมากว่าเป็นนิทานก่อนนอนสำหรับเด็กและโครงเรื่อง แสนลึกล้ำยากจะจินตนาการดู ว่ากันว่า พี่น้องตระกูลกริมม์เคยคิดเอาโครงเรื่องนิทานพวกนี้มาแต่งให้คงเอกลักษณ์รส ชาติเดิมไว้ ผลก็คือ... ทางสำนักพิมพ์ก็บอกว่าเอาไปแต่งใหม่ดีกว่าเพราะเนื้อหาของมันไม่เหมาะต่อ เยาวชนเด็กและสตรีเพราะ มีแต่ความรุนแรง โหดร้าย ทารุณ เซ็กซ์ ก่อนที่จะถูกแปลงให้สะอาดและตัดทอนเนื้อหาที่รุนแรง โหดร้ายลง
แต่... คุณรู้หรือเปล่าว่าเบื้องหลังนิทานเหล่านั้น มันมีต้นกำเนิด..มันเป็นนิทานพื้นบ้านของยุโรป ซึ่งมีหลายเวอร์ชั่น ซึ่งเนื้อหานี้เหลื่อเชื่อมากว่าเป็นนิทานก่อนนอนสำหรับเด็กและโครงเรื่อง แสนลึกล้ำยากจะจินตนาการดู ว่ากันว่า พี่น้องตระกูลกริมม์เคยคิดเอาโครงเรื่องนิทานพวกนี้มาแต่งให้คงเอกลักษณ์รส ชาติเดิมไว้ ผลก็คือ... ทางสำนักพิมพ์ก็บอกว่าเอาไปแต่งใหม่ดีกว่าเพราะเนื้อหาของมันไม่เหมาะต่อ เยาวชนเด็กและสตรีเพราะ มีแต่ความรุนแรง โหดร้าย ทารุณ เซ็กซ์ ก่อนที่จะถูกแปลงให้สะอาดและตัดทอนเนื้อหาที่รุนแรง โหดร้ายลง
รัมเปลสติลล์สกิน : ตัดเป็นชิ้นๆ , ตาย (Rumpelstiltskin: Dismemberment, Dead Toddlers)
เวอร์ชั่นเดิม :ที่มาของเรื่องนี้นั้น เป็นเรื่องที่เล่าปากต่อปากจนกระทั่งพี่น้องตระกูลกริมม์นำมาแต่งใหม่
ซึ่งเวอรชั่นเดิมนั้นหญิงสาวไม่สามารถหาชื่อจริงของคนแคระคนนี้ได้เลย จนสุดท้ายเธอแก้ปัญหานี้
โดยต้องเอาลูกคนอื่นสวมรอย พอคนแคระจับได้มันเลยวิ่งจับลูกคนแรกของเด็กสาว(รวมถึงเด็กสาวด้วย)
กระทืบเท้าจนขาคนแคระจมพื้นดิน
ซึ่งเวอรชั่นเดิมนั้นหญิงสาวไม่สามารถหาชื่อจริงของคนแคระคนนี้ได้เลย จนสุดท้ายเธอแก้ปัญหานี้
โดยต้องเอาลูกคนอื่นสวมรอย พอคนแคระจับได้มันเลยวิ่งจับลูกคนแรกของเด็กสาว(รวมถึงเด็กสาวด้วย)
กระทืบเท้าจนขาคนแคระจมพื้นดิน
จากนั้นคนแคระกระชากขาและแขนเธอและลูกจนฉีกขาด ซึ่งทหารผู้พิทักษ์ทั้งหมดต้องมาเอาคนแคระออก แต่สายไปเสียแล้วเพราะสิ่งที่เหลือจากนั้นคือซากของเด็กสาวและลูกที่ตายคาที่ เหมือนก้อนเนื้อ
จนมีคำถามตามมาว่าคนแคระนั้นคือซอมบี้สัตว์ประหลาดปลอมตัวหรือเปล่า
จนมีคำถามตามมาว่าคนแคระนั้นคือซอมบี้สัตว์ประหลาดปลอมตัวหรือเปล่า
ขอบคุณ
......ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชมค่ะ......